ท่องเที่ยว หนึ่งวันที่ Acropolis

Acropolis แห่ง Athens เป็นสถานที่ ท่องเที่ยว ที่สำคัญและมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 4,000 ปี ตั้งแต่ยุคหินใหม่จนถึงยุคปัจจุบัน วิหาร Parthenon และอาคารสำคัญอื่น ๆ ที่นี่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของอารยธรรมกรีกโบราณและเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก

1. ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของ Acropolis

Acropolis แห่ง Athens เป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองของอารยธรรมกรีกโบราณที่ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน สถานที่แห่งนี้มี ประวัติศาสตร์ อันยาวนานที่น่าสนใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการของ อารยธรรม กรีกตั้งแต่ยุคแรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน

ผู้ตั้งถิ่นฐานยุคแรกและกษัตริย์ไมซีเนียน

หลักฐานทางโบราณคดีบ่งชี้ว่ามีการตั้งถิ่นฐานบนเนินเขา Acropolis มาตั้งแต่ยุคหินใหม่ ราว 4,000 ปีก่อนคริสตกาล โดยชาวกรีกยุคแรกได้เลือกสถานที่แห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยเนื่องจากมีความสูงชันและมีน้ำพุธรรมชาติ ทำให้สามารถป้องกันตัวจากศัตรูได้ดี

ต่อมาในช่วง 1,400-1,200 ปีก่อนคริสตกาล Acropolis ได้กลายเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรไมซีเนียน ซึ่งเป็น อารยธรรม ที่รุ่งเรืองในยุคสำริดของกรีก กษัตริย์ไมซีเนียนได้สร้างพระราชวังและป้อมปราการขนาดใหญ่บน Acropolis โดยมีกำแพงหินขนาดมหึมาล้อมรอบ ซากปรักหักพังของกำแพงยุคนี้ยังคงเห็นได้ทางด้านตะวันตกของ Acropolis จนถึงปัจจุบัน

สงครามเปอร์เซียและการบูรณะโดยเพริคลีส

จุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์ของ Acropolis เกิดขึ้นในช่วงสงครามกรีก-เปอร์เซีย เมื่อกองทัพเปอร์เซียบุกเข้ายึดและเผาทำลาย Athens รวมทั้ง Acropolis ในปี 480 ก่อนคริสตกาล อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ชาวเอเธนส์สามารถขับไล่กองทัพเปอร์เซียออกไปได้ พวกเขาก็ได้เริ่มบูรณะ Acropolis ขึ้นใหม่อย่างยิ่งใหญ่

ภายใต้การนำของเพริคลีส ผู้นำที่ยิ่งใหญ่แห่ง Athens ทำให้ Acropolis ได้รับการบูรณะให้กลับมามีความงดงามอลังการยิ่งกว่าเดิม โดยมีการสร้างวิหาร Parthenon รวมถึงอาคารสำคัญอื่น ๆ เช่น Propylaea, Erechtheion และวิหาร Athena Nike ขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล ยุคนี้ถือเป็นยุคทองของสถาปัตยกรรมและศิลปะกรีกโบราณ ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้กับ Acropolis มาจนถึงปัจจุบัน

เรื่องราวของ Acropolis ในยุคโรมัน ไบแซนไทน์ และออตโตมัน

หลังจากที่กรีซตกอยู่ภายใต้การปกครองของโรมในปี 146 ก่อนคริสตกาล Acropolis ยังคงมีความสำคัญในฐานะศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรม แม้ว่าจะไม่ได้รับการดูแลอย่างดีเท่ายุคก่อนหน้า ในยุคไบแซนไทน์ วิหารพาร์เธนอนถูกเปลี่ยนให้เป็นโบสถ์คริสต์ ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนเป็นมัสยิดในสมัยที่ออตโตมันปกครองกรีซ

ในช่วงสงครามปลดปล่อกกรีซจากออตโตมันในปี 1687 Acropolis ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการถูกระเบิด ทำให้วิหารพาร์เธนอนพังทลายลงเป็นบางส่วน หลังจากที่กรีซได้รับเอกราชในปี 1832 จึงเริ่มมีการบูรณะและอนุรักษ์ Acropolis อย่างจริงจัง จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในปัจจุบัน

2. จุดถ่ายรูปไม่ควรพลาดที่ Acropolis

Acropolis เป็นหนึ่งในสถานที่ ท่องเที่ยว ทาง ประวัติศาสตร์ ที่สำคัญที่สุดของกรีซและของโลก ด้วยอาคารโบราณที่ตั้งโดดเด่นอยู่บนยอดเขาสูงกลางกรุงเอเธนส์ ทำให้ Acropolis เป็นจุด ถ่ายรูป ยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เราขอแนะนำ 3 จุด ถ่ายรูป ที่สวยที่สุดใน Acropolis ที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนที่นี่

ด้านหน้าของวิหาร Parthenon

วิหาร Parthenon เป็นอาคารที่โดดเด่นที่สุดบน Acropolis และเป็นสัญลักษณ์ของกรีซโบราณ การ ถ่ายรูป ด้านหน้าของ Parthenon คุณจะสามารถเก็บภาพที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่อลังการของสถาปัตยกรรมกรีกโบราณได้อย่างชัดเจน

จุดที่ดีที่สุดในการ ถ่ายรูป ด้านหน้า Parthenon คือบริเวณทางเข้าหลักของ Acropolis ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของวิหาร จากจุดนี้คุณจะสามารถเห็นเสาหินดีไซน์สวย ๆ และหน้าจั่วของ Parthenon ได้อย่างเต็มตา ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการ ถ่ายรูป คือช่วงเช้าตรู่ เนื่องจากแสงแดดยามเช้าจะช่วยเพิ่มมิติให้กับภาพและนักท่องเที่ยวยังมากันไม่มาก

เนินหินด้านหลังวิหาร Parthenon

อีกจุด ถ่ายรูป ที่น่าสนใจคือเนินหินด้านหลังวิหาร Parthenon ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของอาคาร จุดนี้จะช่วยให้คุณได้ภาพ Parthenon ในมุมมองที่แตกต่างออกไป แถมยังมีจำนวนนัก ท่องเที่ยว ไม่มาก ทำให้เก็บภาพได้สะดวก ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะติดคนอื่น

เอเรคธีออน (The Erechtheion)

เอเรคธีออนเป็นวิหารอีกแห่งบน Acropolis ที่มีความโดดเด่นไม่แพ้ Parthenon ด้วยระเบียงด้านทิศใต้ที่มีรูปปั้นหญิงสาว 6 คนเป็นเสารองรับหลังคา ที่เรียกว่า “คาริยาทิด” (Caryatids) ทำให้เอเรคธีออนเป็นจุดถ่ายรูปมีความเฉพาะตัวและนักท่องเที่ยวทุกคนที่ไม่ควรพลาด

จุดที่ดีที่สุดในการถ่ายรูปเอเรคธีออนคือบริเวณด้านทิศใต้ของอาคาร ซึ่งจะทำให้คุณเห็นคาริยาทิดได้อย่างชัดเจน ซึ่งการ ถ่ายรูป ในช่วงบ่ายจะช่วยให้ได้ภาพที่มีแสงและเงาที่สวยงาม เน้นให้เห็นรายละเอียดของรูปปั้นได้ดียิ่งขึ้น

3. ข้อมูลสำคัญสำหรับการ ท่องเที่ยว

เวลาเปิดทำการและการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล

Acropolis เปิดให้เข้าชมเกือบทุกวันตลอดทั้งปี โดยมีเวลาทำการที่แตกต่างกันในแต่ละฤดูกาล

  • ฤดูร้อน (1 เมษายน – 31 ตุลาคม): เปิด 8:00 น. – 19:30 น. โดยเข้าชมได้ถึงรอบสุดท้ายเวลา 19:00 น.
  • ฤดูหนาว (1 พฤศจิกายน – 31 มีนาคม): เปิด 8:00 น. – 17:00 น. โดยเข้าชมได้ถึงรอบสุดท้ายเวลา 16:30 น.

Acropolis มีวันที่ปิดทำการ ได้แก่ วันที่ 1 มกราคม, 25 มีนาคม, 1 พฤษภาคม, วันอีสเตอร์, 25 และ 26 ธันวาคม นอกจากนี้ยังมีวันที่สามารถเข้าชมได้ฟรี เช่น วันที่ 6 มีนาคม, 18 เมษายน, 18 พฤษภาคม และวันอาทิตย์แรกของเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม สำหรับนักท่องเที่ยวมาเพื่อการ ถ่ายรูป แนะนำให้มาในช่วงเช้าหรือเย็นเพื่อหลีกเลี่ยงแสงแดดจ้าและฝูงชนที่มากเกินไป

การซื้อตั๋วและเคล็ดลับไม่ต้องรอคิวนาน

การซื้อตั๋วล่วงหน้าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการประหยัดเวลาและหลีกเลี่ยงการรอคิวยาว โดยมีตัวเลือกตั๋วหลายประเภท ได้แก่

  • ตั๋วเดี่ยว: ราคา 20 ยูโรสำหรับผู้ใหญ่ ใช้ได้สำหรับ Acropolis และบริเวณโดยรอบ
  • ตั๋วรวม: ราคา 30 ยูโร ใช้ได้กับ 7 แหล่งโบราณคดีในเอเธนส์ภายใน 5 วัน

สามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้ผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการหรือผ่านบริการจองทัวร์ต่าง ๆ การซื้อตั๋วแบบ Skip-the-line จะช่วยให้ประหยัดเวลารอคิวได้มาก

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม Acropolis คือตอนเปิดทำการหรือช่วงบ่ายแก่ เพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชนและอากาศร้อน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้

สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการและผู้เข้าชม

Acropolis มีการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่น

  • มีลิฟต์สำหรับรถเข็นที่ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ Acropolis
  • มีเส้นทางเข้าถึงสำหรับผู้พิการจากลานจอดรถไปยังยอดเขา
  • พื้นผิวส่วนใหญ่บนยอดเขาค่อนข้างเรียบ แต่ยังคงมีบางส่วนที่ขรุขระ
  • มีห้องน้ำสำหรับผู้พิการทั้งที่ทางเข้าและบนยอดเขา

สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป มีบริการเช่าเครื่องนำเที่ยวเสียงและมีจุดให้บริการข้อมูลหลายจุดบริเวณ โลเคชั่น ต่าง ๆ ของไซต์ นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหารบริเวณทางเข้า

การเดินทางไปยัง Acropolis

การเดินทางไปยังอะโครโพลิสสามารถทําได้หลายวิธี ดังนี้

  • รถไฟใต้ดิน (Metro) – วิธีนี้สะดวกและประหยัดที่สุด โดยสามารถนั่งรถไฟสายสีแดงหรือสีเขียวไปลงที่สถานี Acropoli จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 10 นาทีก็จะถึงทางเข้าอะโครโพลิส
  • รถบัส – มีรถบัสหลายสายที่ผ่านบริเวณอะโครโพลิส เช่น สาย 230 และ 227 ซึ่งจะจอดใกล้กับทางเข้า
  • แท็กซี่ – สะดวกแต่ราคาแพงกว่าวิธีอื่น สามารถเรียกแท็กซี่จากที่พักให้มาส่งที่ทางเข้าอะโครโพลิสได้โดยตรง
  • เดิน – หากพักอยู่ในย่านเมืองเก่าของเอเธนส์ สามารถเดินขึ้นเนินเขามายังอะโครโพลิสได้ ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที
ข้อควรรู้ก่อนไป Acropolis
  • ควรสวมรองเท้าที่สวมใส่สบายและเหมาะกับการเดินบนพื้นผิวขรุขระ เนื่องจากต้องเดินขึ้นเนินและบันไดหินหลายจุด
  • พกน้ำดื่มติดตัวไปด้วย โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนจัด
  • สวมหมวกและทาครีมกันแดด เพราะบริเวณ Acropolis มีร่มเงาน้อย
  • ควรใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงในการเดินชม เพื่อให้ได้เห็นทุกจุดสําคัญอย่างไม่เร่งรีบ
  • มีบริการเช่าไกด์นําเที่ยวและเครื่องบรรยายอัตโนมัติ (Audio Guide) สําหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม
  • ห้ามปีนป่ายหรือแตะต้องโบราณสถานและประติมากรรมต่างๆ เพื่อช่วยอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่านี้
  • มีจุดบริการห้องน้ําและร้านขายของที่ระลึกบริเวณทางเข้า แต่ไม่มีร้านอาหารภายในบริเวณ Acropolis

การเยี่ยมชม Acropolis ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของกรีกโบราณ แต่ยังได้ชื่นชมความงดงามของสถาปัตยกรรมและศิลปะที่มีอิทธิพลต่อโลกมาจนถึงปัจจุบัน อย่าลืมเตรียมกล้องถ่ายรูปเพื่อเก็บภาพความประทับใจจากจุดถ่ายรูปที่น่าสนใจต่าง ๆ

โรงแรมที่ดีที่สุดใน Athens:

เช็กตั๋วเครื่องบินราคาถูกที่สุดจาก Expedia

รู้จักกรีซให้มากขึ้น ลองมาอ่านบทความของเรา

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่บทความด้านล่างนี้

Leave the first comment